Friday 22 January 2010

,,,The Clown Puppet,,,

,,,The Clown Puppet,,,
___________________________________________________
A clown,,,

it dresses ridiculously,
it does silly things,
it acts like a fool,

just to be sneered at, to be laughed at.
____________________________________________________
A puppet,,,
it has no brain,
it only does things it is conducted,
it doesn't have even a chance to decide for its own self,

just to fulfill other people's needs.
____________________________________________________
One day,
it just wondered about its life,,
where is the happiness?
what am i doing?
whose life is this, is it really MY life?___________________________________________________
But,,,
some day soon,,,

the clown puppet will find out,,,
like what Mr.Scarecrow realized.

,,,

i hope.
____________________________________________________

,,,The Clown Puppet,,,

Monday 26 January 2009

::: My Favorite Actor,,,zaizai :::

ดูไร้สาระได้อีกที่จะอัพเรื่องดารา - -a
แต่ก็คนมันชอบอะนะ แหะๆ
ดาราคนนั้นก็คือ ไจ่ไจ๋ น่ะเอง
หลายคนอาจจะงงว่าใครคือไจ่ไจ๋
จำเมื่อประมาณอยู่ม.หนึ่งกันได้รึเปล่า
คนที่เล่นเป็นฮัวเจ๋อเล่ย ในละครเรื่องรักใสใสหัวใจสี่ดวง ช่อง3
(ละครที่ไม่น่าจะสนุก แต่ก็ทำให้สาวค่อนประเทศไทยนั่งหน้าทีวีได้ตลอดคืน)
ตั้งแต่นั้นมา เราก็ตามเก็บประวัติ รูป แล้วก็คลิปต่างๆของไจ๋จนเต็มเครื่อง ^^
มาดูประวัติไจ๋กันเถอะ!!
ไจ่ไจ๋ หรือ Vic Zhou (Zhou Yu Min) เป็นคนจังหวัดอี้หลัน ประเทศไต้หวัน
คำว่าไจ่ไจ๋เป็นภาษาจีนกลางแปลว่าเด็กผู้ชาย
ในวันที่ 9 มิถุนายน 1981 เป็นวันเกิดของผู้ชายที่หน้าตาดีและมีเสน่ห์ที่สุดคนนี้ 55+
ไจ๋มีเลือดกรุ๊ปโอ
ไจ๋มีพี่ชายหนึ่งคน (ที่แต่งงานแล้ว มีลูกชายชื่อ Jack ไจ๋รักมากกกก)
พ่อแม่ของไจ๋แยกทางกันตั้งแต่ไจ๋ยังเด็ก
อาหารที่ชอบคือ ไก่ทอด กับ ชาเขียวทับทิม
สีที่ชอบคือ สีเทา สีดำ
ศิลปินที่ชอบคือ หลิวเต๋อหัว(หน้าแอบเหมือนกันด้วยอะ) กับ จางฮุ่ยเหม่ย
ไจ๋เป็นคนตลก ขี้อาย แล้วก็ชอบนอนมากๆ (สมกับที่เป็นอาเล่ยจริงๆ - -)
สิ่งที่ชอบมากกกก คือ รถนั่นเอง (จำได้ว่าเคยตั้งชื่อรถซะด้วย เป็นเอามากๆ)

ผลงานเพลงของไจ๋มีอัลบั้มรวมกับ F4 2 อัลบั้ม
(meteor rain, fantasy forever)
ส่วนผลงานเพลงเดี่ยวมี 3 อัลบั้ม
(make a wish, remember i love you, i'm not F4)

ไจ๋เคยบอกว่าชอบเล่นละครมากกว่าร้องเพลง
ด้านการแสดง ก็เลยมีทั้งละครหลายเรื่อง ได้แก่
1.meteor garden I/ II
ไจ๋เล่นเป็นคุณชายไฮโซ ชื่อฮัวเจ๋อเล่ย อบอุ่น น่ารัก ขี้เซาตลอดเวลา ถือคติ "เรื่องของคนอื่น ชั้นไม่ยุ่งหรอก" แต่ก็ดันเป็นพระรองซะได้ ทั้งๆที่หล่อกว่าพระเอก 555+
2.เทพบุตรถังแตก
เรื่องนี้เป็นพระเอกกกกก 555+ ชื่อไท่หลาง ถ้าใครได้ดูเรื่องนี้คงรู้ว่าฮามากกก และไจ๋ก็น่ารักมากมายด้วย ในเรื่องก็มีพี่น้องประมาณ 10 คนได้ ด้วยมาดหล่อๆทำให้ทุกคนคิดว่าต้องเป็นคุณชายแน่ๆแต่กลับเป็นคนจน ในเรื่องนี้ก็งกซะ ขนาดเสียงเหรียญหล่นไกลๆก็ยังได้ยิน
3.come to my place
ไม่ค่อยได้ดูเรื่องนี้เท่าไหร่ รู้แต่เป็นช่างกล้อง ร้ายๆหน่อย (แต่ก็ยังน่ารักนะ แบบตานี่จิกมากกกกก) แล้วก็เป็นพระรองอีกตามเคย - -
4.love storm
ได้กล้บมาเป็นพระเอก ชื่อ ลู่อิ่งเฟิง และ เล่นเป็นลูกเลี้ยงของมาเฟีย แต่ว่าจริงๆแล้วเป็นคนดี ทำงานเป็นผจก.อยู่บริษัทขายของแนว tv direct หุหุ
5.mars
เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย เรื่องนี้เล่นเป็นพระเอกนักแข่งมอเตอร์ไซค์ ชื่อ หลิง ถูกใจไจ๋หล่ะ เพราะตัวจริงก็ชอบซิ่งรถ(จนไปชนมาหลายครั้งละ) หลิงเป็นคนเจ้าชู้มากๆ ที่จริงแล้วเคยมีแฝดแต่ว่าเสียไปก่อน ทำให้กลายเป็นปมในใจของหลิงมานาน เรื่องนี้ทำให้ไจ๋ได้เจอก่ะต้าเอส และกลายเป็นแฟนกัน ชิชะๆ (แต่สุดท้ายก็เลยกันไป ^^ เป็นที่ดีอกดีใจของเหล่าแฟนคลับ)
6.silence
เรื่องนี้ได้เล่นก่ะนางเอกเกาหลีด้วย (พูดกันคนละภาษา นางเอกเลยเล่นเป็นใบ้ซะงั้น - -)
แล้วก็กลับมาเป็นคนรวยแล้ว ไจ๋ในเรื่องชื่อ ฉีเหว่ยอี้ เป็นคนรวยแบบไม่สนใคร เห็นแก่ตัวโพดๆ
แต่พอมาเจอนางเอกซึ่งเคยเป็นรักในวัยเด็กก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากมาย
เรื่องนี้ก็ออกแนวเกาหลีสุดๆเลยแหละ พระเอกป่วยเป็นมะเร็งตับด้วย
7.wish to see you again
เป็นละครโปรโมทการท่องเที่ยวไต้หวัน ที่ไจ๋เล่นเป็นนักเขียนแอบโรคจิตนิดๆ
ปลอมตัวเป็นคนขับเเท๊กซี่หาข้อมูลเขียนหนังสือ (พลอตไทยมากกกก)
เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ แหะๆๆ
8. sweet relationship
เรื่องนี้ฉายอยู่ช่อง 3 ตอนนี้เลยนะ
ไจ๋เล่นเป็นเชฟชื่อว่า ฟางจือเถียน
แรกๆเป็นคนอารมณ์ร้าย (อีกและ) ใครก็เข้าหน้าไม่ติด
แต่พอนางเอกเข้ามาทำงานที่ร้าน จือเถียนก็เริ่มมีรอยยิ้ม หัวเราะได้
แล้วก็ยังมีภาพยนตร์อีก น่าจะ 3 เรื่อง
1. linger
ไจ๋เล่นเป็นผี - - (สุดหล่อ)
ที่ตามมาหลอกหลอนแฟนเก่า (มั้ง ยังไม่ได้ดู แหะๆๆ)
2. tea flight
3. black and white
สองเรื่องนี้คิดว่าเป็นหนังนะ เรื่องนึงเล่นกับคนญี่ปุ่น เกี่ยวกับสงครามแย่งใบชาของสองตระกูล ประมาณนั้น
ส่วนอีกเรื่องเล่นเป็นตำรวจ แต่ยังถ่ายทำไม่เสร็จเลย
นอกจากนี้ ไจ๋ก็ยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าหลายอย่าง ตั้งแต่ แชมพู รองเท้า มือถือ ลูกอม ชาเขียว ชานม หรือ เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องสำอางด้วย แล้วก็ถ่ายแบบขึ้นปกหนังสือนับไม่ถ้วน เก็บกันไม่ไหว (ตังค์ไม่พอ - -")เห็นผลงานเยอะขนาดนี้
จริงๆแล้วไจ๋ให้ความสำคัญกับการเรียนนะ
จำไม่ได้ว่าตกลงแล้วไจ๋เรียนจบรึยัง
แต่ไจ๋มักจะบอกเสมอๆ ให้แฟนคลับเด็กๆกลับไปตั้งใจเรียน
เพราะอยากให้ทุกคนได้เรียนจบ ไม่เหมือนตัวไจ๋
(อันนี้นานมาแล้วนะ คือเคยเวลาเรียนไม่พอ เพราะมาเข้าวงการก่อน เลยไม่จบ
แล้วกลับไปเรียนใหม่ จำไม่ได้ว่าจบรึยัง)
ไจ๋เป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆชอบบริจาคเงินให้กับเด็กๆด้อยโอกาสทั้งหลาย
มีสร้างโรงเรียนให้เด็กในชนบท ให้เงินเด็กปัญญาอ่อนฯลฯ
เวลาแฟนคลับจะซื้อของให้ ไจ๋ก็บอกว่าไม่เอาได้มั้ย ขอให้เอาเงินไปทำบุญดีกว่า

แล้วไจ๋ก็ใส่ใจแฟนคลับมาก
ครั้งนึงมีงานมีทแอนด์กรี๊ดประมาณนั้น
ไจ๋ช่วยสตาฟยกของ จัดของเองเลย
น่ารักมากๆ
ความอารมณ์ดี ขี้เล่นของไจ๋ก็ทำให้เราชอบด้วย
ชอบทำหน้าทะเล้น แล้วก็ซน แกล้งคนไปได้เรื่อยๆ
หน้าไจ๋เวลาหัวเราะที่แกล้งคนสำเร็จ ดูยังไงก็ไม่เบื่อ >///<
ข้อดีของการชอบไจ๋ก็คือ ทำให้เราตั้งใจเรียนภาษาจีนขึ้นเยอะมากๆๆๆๆ
เพราะตอนนั้น อยู่บ้านก็เปิดช่องจีน หวังให้เห็นหัวไจ๋สักแว้บบบ ก็ยังดี
เพลงก็ฟังเพลงจีน เวลาไปเรียนก็ขยันพูด ขยันเขียน ขยันทำการบ้าน
อะไรที่ยังหลงๆอยู่ในหัวเราตอนนี้ ก็มาจากไจ๋เนี่ยแหละ

สุดท้ายนี้ บลอคนี้ก็ยาวมากก อีกแล้ว 55+
หวังว่าเพื่อนๆก็จะชอบไจ๋
(คนที่ไม่ได้แค่หน้าตาดี เล่นละครเก่ง แต่จิตใจก็น่ารักด้วย)
เหมือนๆกับเรานะ
ปลใ ลืมเครดิตรูป จาก zaizai lover's home @ f4forveer.pantipmambers.com จ้า^^

Sunday 18 January 2009

ช อ บ :)

พูดถึงเรื่อง ช อ บ

เหมือนจะง่ายเลยแฮะ

แต่เอาเข้าจริงก็มีตั้งเยอะแยะ


ลองคิดๆดูว่า

เราทำอะไรแล้วมีความสุข?

ก็คงจะได้ประมาณว่า


- นั่งอ่านหนังสือดีๆ

- ดูหนังสนุกๆ

- ละเลียดของหวานทีละนิดๆ

- เห็นหน้าไจ๋ >/////<

- ร้องเพลง+เล่นดนตรี

- ถ่ายรูป


1. อ่านหนังสือ


เราชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

คงจะเป็นเพราะแม่ชอบหานู่นนี่มาให้อ่าน

แล้วพี่ๆก็โตกันแล้ว ไม่ค่อยมีใครมาเล่นก่ะเรา

หนังสือ ก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทเราตั้งแต่นั้นมา

ช่วงแรกๆก็อ่านนิทานตามประสาเด็กน้อย

ต่อมาก็อ่านพวกวรรณกรรมเยาวชน แนวรักๆ

แล้วกลายเป็นแนวสืบสวน

พอถึงเวลาใกล้เอนท์

ก็อ่านแนวพัฒนาตนเอง ให้กำลังใจแนวนั้น

555+


หนังสือเล่มโปรดก็เลยมีเยอะแยะไปหมด

ไว้ค่อยมาพูดถึงเมื่อมีโอกาสแล้วกันนะ


2. ดูหนัง


เป็นอีกวิธีสร้างความสุข

หนังดีๆ ทำให้เราหลุดเข้าไปอีกโลกนึง

ลืมความเครียด ความไม่สบายใจไว้ข้างหลัง

แล้วท่องไปกับตัวละคร

จะบอกว่าเรานี่หัดอินก่ะหนังตั้งแต่เด็ก

(อีกและ)

แค่ 4 ขวบก็ร้องไห้ตามหนังและ

55+


3. กินของหวาน


ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นรึเปล่า

แต่สำหรับเรา

ถ้าได้เจอเค้กสักชิ้น

การค่อยๆได้เล็มไปทีละนิด

เน้นว่าต้องค่อยๆละเลียดนะ

(กินของหวานเร็วๆ มันไม่อร่อยเท่าจริงๆนะ)

มันเป็นความสุขมากกกกกกเลยนะ

บรรยายไม่ถูกแฮะ

เอาเป็นว่า มันเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้เฉพาะบุคคล

แต่จะลองลอกเลียนแบบก็ได้ (ถ้าไม่กลัวอ้วนนะจ๊ะ ฮี่ๆ)


4. เห็นหน้าไจ๋ >////<

(ออกแนวเพ้อซะอย่างงั้นน่ะ)


ตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว

ได้เห็นหน้าผู้ชายคนนึง
เวลาได้ดูหนัง ฟังเพลง ดูรูป ดูคลิป

อะไรก็ตาม

ที่เป็นไจ๋

แล้วรู้สึกมีความสุขตลอดเวลา

(เว่อซ้า)


ไจ๋ไม่ได้เเค่หน้าตาดี

แต่จิตใจก็ดีด้วยจริงๆ


อาจจะดูเหมือนไร้สาระนะ

แต่อย่างน้อยไจ๋ก็เป็นแรงบันดาลใจ

ให้เราตั้งใจเรียนภาษาจีนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

(ถึงแม้ตอนนี้จะลืมไปเยอะแล้ว เสียดายจัง T^T)


5. ร้องเพลง+เล่นดนตรี


ถึงแม้เสียงเราจะไม่ดี

แต่การได้ร้องหรือฮัมเพลง

ช่วยให้เรามีความสุขได้

(แบบหลับหูหลับตาร้อง ไม่ฟัง 555+)

คล้ายๆว่ามันเป็นทางปลดปล่อยอารมณ์ได้ดีทางหนึ่ง

เนอะ!


6. ถ่ายรูป


อันนี้เป็นความสุขน้องใหม่

ยังไม่ได้ชอบขนาดนั้นหรอก

แต่ก็แค่รู้สึกดี

เวลาได้เห็นรูปที่ถ่ายออกมา

(บอกไม่ถูกอีกแล้ว)


ก็ประมาณนี้แหละ ความสุขของพะพิม 555+

ลาไปด้วยคนนี้ละกัน


ปล ขอโปรโมท ทุกคืนวันเสาร์ ประมาณ 5 ทุ่ม ช่อง 3

" เมนูรัก เชฟมือใหม่ "

อย่าลืมดูกันนะ ^^



















Saturday 10 January 2009

(far-beyond-reality) D R E A M ...

ยังจำความใฝ่ฝันตอนเด็กๆกันได้รึเปล่า ?

......................................................................................................................

ทุกครั้ง

เวลามีคนถามว่า

"โตขึ้น หนูอยากเป็นอะไร?"

อาจจะเป็นเพราะเป็นคำตอบเคยๆ ใครๆก็ตอบกัน

อาจจะเป็นเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี

หรือ

อาจจะเป็นอะไรลึกๆในใจสักอย่าง

แต่คำตอบทุกครั้งก็เป็นเหมือนเดิม

......................................................................................................................

ในวันนี้

เมื่อมันไม่ได้สำเร็จเป็นจริงขึ้นมา

ไม่ว่าจะด้วยความดื้อรั้น โง่เขลา หรืออะไรก็แล้วแต่

อย่างน้อย

มันก็เป็นเครื่องเตือนใจ

ให้เราได้คิดว่า

ถ้าอยากจะทำอะไร คิดให้ดี
แล้วลงมือทำ
ให้ดีที่สุด*

......................................................................................................................














Sunday 28 December 2008

Movie Mania

คุณเบื่อใช่มั้ย?? กับการอยู่บ้านในวันหยุดยาว นอน กิน เล่นเนต และดูทีวี

ในวันนี้ พะพิมขอเสนอออออออ.....


"การตระเวนดูหนังในวันปีใหม่"


ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววว


เริ่มต้นที่เรื่องแรก


HAPPY BIRTHDAY

เรื่องราวความรักของชายหนุ่ม 'เต็น' และหญิงสาว 'เภา' ที่บุพเพนำพาให้ทั้งสองมาพบรักกัน

โดยมีหนังสือท่องเที่ยวเป็นสื่อกลาง หนังสือเล่มที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน

โดยที่ทั้งสองยังไม่เคยพบหน้ากัน จนเมื่อได้พบกันโดยบังเอิญ

ความคุ้นเคยและสนิทสนมที่เคยผ่านตัวหนังสือมาแล้ว ก่อเกิดขึ้นกลายเป็นความรัก

พร้อมถ้อยคำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะไม่ทอดทิ้งกันตราบนิรันดร์



เรื่องที่สองก็คือ

Australia



เรื่องราวของสาวผู้ดีอังกฤษ “เลดี้ ซาร่าห์ แอชลีย์” (นิโคล คิดแมน) ผู้ตามสามีของเธอมาที่ออสเตรเลีย


เพื่อที่จะขายฟาร์มขนาดเท่าเบลเยี่ยมของเขา อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าเขาจะต้องกำลังนอกใจเธออยู่แน่ๆ

เธอจึงไปเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับเขา เธอเริ่มออกเดินทางอย่างราชินีแอฟริกัน

ร่วมเดินทางพร้อมกับ “นักต้อนสัตว์” (ฮิวจ์ แจ็คแมน) แต่ท้ายที่สุด เธอก็กลายมาเป็นผู้สืบทอดฟาร์มนั้น

และเพื่อที่จะรักษามัน เธอกับนักต้อนสัตว์จึงต้องพาสัตว์ไปที่ดาร์วิน และการเดินทางนี้เอง

ทำให้เธอตกหลุมรักกับคนต้อนสัตว์ และกับออสเตรเลีย ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิดที่

ดาร์วิน โดยกองทัพญี่ปุ่นที่ได้เคยโจมตีก่อนหน้านี้ที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์


เรื่องต่อมาเลยนะ


Madagascar: Escape 2 Africa


ภาคต่อมาแล้วจ้า ก็เจ้าสิงสาราสัตว์แห่งสวนสัตว์นิวยอร์คทั้ง อเล็กซ์ สิงห์เจ้าป่า, มาร์ตี้ ม้าลายปากเปราะ,

เมลแมน ยีราฟปอดแหก, และกลอเรีย ฮิปโปสาวมาดมั่น ยังเฉิดฉายอยู่ที่มาดากาสก้า

วางแผนจะออกจากเกาะสวรรค์กันเสียที แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด พวกเขากลับหล่นปุ๊อยู่ในป่าลึกของอัฟริกา

อเล็กซ์ได้พบกับครอบครัวของเขาที่นั่น และเข้ากันไม่ค่อยได้ เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่ในสวนสัตว์มาตั้งแต่เกิด

นั่นเอง ภาคต่อจากหนังยอดฮิตเมื่อปี 2005 กลับมาป่วนอัฟริกาแน่นอน


เรื่องสุดท้ายแว้ว เรื่องที่สี่

Bedtime Stories


เรื่องราวของช่างประจำโรงแรมแห่งหนึ่ง สกีเตอร์ บรอนสัน (อดัม แซนด์เลอร์) พบต้องพบกับความ


มหัศจรรย์สุดพิศดารครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อนิทานก่อนนอนที่เขาเล่าให้หลานๆทั้งสองฟัง


กลับกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเขาจึงใช้ความมหัศจรรย์นี้ เล่านิทานโดยที่มีเขาเป็นตัวเอก


แล้วแอบใส่ความปรารถนาของเขาเข้าไปด้วย แต่กลับกลายเป็นหลานๆของเขาเอง ที่เปลี่ยนเนื้อเรื่อง


จนทำให้แผนการที่เขาวางไว้กลับตาลปัตร เละตุ้มเป๊ะ จนทำให้เกิดเรื่องราวการผจญภัยในโลกแฟนตาซี


สุดฮา แปลก แหวกแนว ตั้งแต่นักรบโบราณสไตล์ กราดิเอเตอร์, คาวบอยโลกตะวันตก, ไปจนถึงแนวไซไฟ



แต่เดี๋ยวก่อน!!!!

ถ้าคุณได้อ่านบลอคของเราวันนี้


เราแถมหนังที่กำลังจะเข้าในอนาคตอันใกล้ให้ด้วยยยย






น่าดูทั้งนั้นเลยเนอะ

สนใจเรื่องไหน ติดต่อได้


ยินดีไปดูเป็นเพื่อนทุกเรื่อง

555+





















































Saturday 27 December 2008

midterm is over..it's time to relax (with "4 romances")

ในที่สุด มิดเทอมมาราธอนก็จบลงซ้าที เห้อ


- human relations: อุส่าไปนั่งอ่าน hand out แล้วก็ short note ด้วย ซึ่งคุ้มมั้ย? ก็คิดซะว่าได้ความรู้แล้วกัน แหะๆ ก็ชิวๆอะนะ ยังไงก็น่าจะ A กันยกเซคอยู่และ แต่ที่ดีใจที่สุดก็คือ ต่อจากนี้ไปจะว่างมากขึ้นตั้ง 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ >///<>

- Exp. Eng.: รู้สึกครั้งนี้ทำได้โอเลยทีเดียว รู้สึกว่า passage มันน้อยกว่าทุกที(รึเปล่า?) ส่วนเขียนก็พอไหว ไม่เหมือนทุกทีที่ "เฮือก!! ปั่นๆๆๆ ไม่ทันแล้ว" ไรงี้

- phy med: คิดว่าจะตายแล้วของจริงก่ะวิชานี้ -*- เพราะ Blank มากกกกกก เข้า(ไปอ่านแลป)บ้าง สายบ้าง โดดบ้าง จนคิดว่าจะเอาอะไรไปสอบหล่ะเนี่ย โชคดีที่อาจารย์เมตตาลูกศิษย์ตาดำๆจริงๆ ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่สอบได้อีก 3 วิชาถัดไป - -

- mol bio: ทุกคนก็คงจะเข้าใจได้ตรงกันใช่มั้ย T^T

- Fund Bio Chem Lab: ไม่ไหวแล้ววว ตอนแรกแอบชิวเหอะ นั่งเม้าตั้งแต่เช้า เพราะอ่านตั้งหลายรอบแล้วอะ ยังไงก็น่าจะพอทำได้บ้างซิน่า

แล้วเป็นไง เข้าห้องไป โจทย์อารายเนี่ยยยย งง อึ้งไปนานนน จนเห็นคนข้างๆตัวเค้าเริ่ม move กัน ก็แบบ ไม่ได้และ เริ่มๆ
ยิ่งพอไปหน้าเครื่อง spectro สั่นค่ะ ก่อนอื่นหาลูกศร กรรม อยู่ไหนฟร้า หาไม่เจอ -*- แทบจะเอาหัวมุดลงไปในเครื่องและ พอเทสารก็อีก แบบมือสั่นรุนแรงอ่ะ ทีนี้ cuvette มันห้ามใส่ rack ช้ะ ก็ต้องเทกลับลงหลอด แต่ก็รีบเทหกบ้าง เทไม่หมด แล้วมันก็หกใส่กระดาษข้อสอบอีก เราก็น้าเกรงใจเพื่อนๆที่ต่ออยู่อะ ต้องขอโทษจริงๆน้า
แล้วถึงแม้ว่าเราจะวัดมาได้ ก็ยังเอามาคิดไม่เป็นอยู่ดี จนกริ่ง 5 นาที ก็แบบ เวรๆ ยังไม่ได้ไรเลย อืมม มาคิดตอนหลังก็ปลงๆ 10 คะแนนจากการวัด spectro ก็พอใจ - -

- Lecture Lab: อันนี้ก็โอเคนะ ต้องขอบคุณต้า ตังเม บูม SMOP มากมาย ทำให้เราเข้าใจแลป 4 มากขึ้น ^^ ทุกคนก็คงพอทำกันได้อะเนอะ



หลังจากสอบเสร็จ จะให้นั่งเฉยอยู่ได้ยังไง๊ มันก็ต้องปลดปล่อยกันบ้าง

ฝัน หวาน อาย จูบ*

รอมานานๆ นี่แหละ วิธีผ่อนคลายของเรา หุหุ
(((อาจจะ SPOIL นะ)))

จูบ*
สำหรับเรา เฉยๆ อ่ะ
ไม่ได้ประทับใจมากมาย
มีดีก็ตรง "โอ้เช็ดเลือด"
>////<
แต่จบเร็วได้อีก
มาริโอ้ มาไวไปไว - -
แล้วก็ยังทื่ออยู่เหมือนเดิม
อาย*
ชอบที่สุดเลย
เป็นเรื่องเดียวใน ฝวอจ ที่คิดว่าคุ้มถ้าได้ไปดูในโรง
location เลิศ ภาพสวย
พระนางหน้าตาดี 55+
แต่รู้สึกขัดๆ ว่าพระเอกมัน ท่อง บทนิดนึง
พอๆก่ะอีตามาริโอ้เรื่องตะกี้
มีทั้ง ขำ เศร้า ซึ้ง แล้วก็รัก
ซึ่งไม่ได้บอกถึงความรักระหว่างคนอย่างเดียว
แต่ก็แอบบอกให้คนใส่ใจธรรมชาติด้วยนะ
ชอบหลายๆประโยคในตอนนี้มากๆด้วย
สุดท้ายก็
แอบเสียน้ำตาไปก่ะเรื่องนี้ แหะๆ
หวาน*
"ชอบ"
ตรงที่เป็นเรื่องที่เนื้อหาดีมาก
(( แอบคล้ายใน human เนาะ
defense mechanism
ที่เราจะย้อนกลับไปทำสิ่งที่เรามีความสุข))
หวานคิดว่าตัวเองสาวขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ เชน ต้องพยายามคิดให้ออกว่า
หวานย้อนไปถึงตอนไหนแล้ว
เพื่อดึงหวานกลับมาให้ได้
แต่สุดท้าย
ก็คลาดกันไป
เชนกลายเป็นคนที่หวานไม่เคยรู้จัก
เศร้าตอนสุดท้าย
"ลุงคะ ทำไมลุงดีกับหนูอย่างนี้
ถ้าโตขึ้น หนูจะแต่งงานกับลุงนะคะ"
เศร้าโฮกก T^T
"ไม่ชอบ"
เป็นเพราะเราไม่ชอบชาคริตรึเปล่าไม่รู้
ทำให้ดูไม่สนุกเท่าไหร่ -*-
แล้วก็
แต่งหน้าไม่ไหวอะ - -a
พวกนี้ก็คงเป็นองค์ประกอบให้เราไม่อิน(มั้ง)
ปล. แชมป์ก็ออกน้อยได้อีกนะ - -
ฝัน*
เออะ
จริงๆแล้วรอมาดู ฝัน เลยนะ
มันก็ไม่ได้ผิดปกตินะ
ที่จะมีการ์ตูนออกมา
ก็มันเป็น ฝัน นี่เนอะ
แถมยังเป็นฝันของเด็กซะด้วย
แค่มันไม่ใช่อย่างที่เราคิด แค่นั้นแหละ
อืมมม ดูแล้วก็มีความสุขดี
ตลกมากมาย
ถึงแม้ว่า animation มันจะดูแย่ๆ
(ตรงนี้ทำให้คิดว่า ไม่คุ้มเลย อุส่ามาดูในโรง)
และเด็กมันก็ดู
เด็กเกิ๊น - -
ไม่รู้สิ
อ่อ หลังจากดู ฝวอจ
ได้อีกอย่างหนึ่ง จากทุกเรื่อง
"มาม่า"
-*-
เป็นบลอคที่ยาวได้อีก 55+
หวังว่าจะติดตามอ่าน
และ "เม้น"
กันเยอะๆน้า
=]
ปล. อยากไปกระบี่ ><


Tuesday 23 December 2008

Things I did (when I supposed to revise Molecular Biology)





[CAUTION!] : To read this, children under 15 should be supervised by parents. These are NOT things good students should do. -*-


Things I did (when I supposed to revise Molecular Biology)

1. woke up at 9 am!!
2. enjoyed breakfast while watching non-sense THAI tv program.
3. ate chocolate & macademia cookies.
4. ate instant noodles.
5. ate ...... well, everything I can find in the fridge - -a
6. sleep Zzzz..
7. spent time visiting, like 15, of my friends' blogs and commented on every single one.
8. play game to see "Am i a movie goer?"
9. composed a new article RIGHT NOW!!!!!

GOSH